เมื่อบทที่ผ่านมาเราเรียนเรื่องกาลปัจจุบันมาแล้ว คราวนี้เราจะมาว่ากันถึงกาลอดีต หรือเรื่องที่เกิดขึ้นและสิ้นสุดไปแล้วในอดีต คนที่กระจายกริยา être และ avoir ในกาลปัจจุบันถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะได้เปรียบมาก แต่ถ้าใครยังกระจายกริยา 2 ตัวนี้ในกาลปัจจุบันไม่ได้ ทบทวนเดี๋ยวนี้เลย
กาลอดีตหรือ Passé composé เกิดจากการนำ กริยา être หรือ avoir ในกาลปัจจุบันมาบวกกับ participe passé
แล้ว participe passé มันคืออะไร ?
จะว่าไปแล้ว มันก็คล้ายกับกริยาช่องที่ 3 ในภาษาอังกฤษ ที่ต้องใช้คู่กับกริยาช่วย เดี๋ยวจะอธิบายโดยละเอียดให้ดู แต่สิ่งที่ควรรู้ก่อนก็คือ เวลาทำกาลอดีต ในภาษาฝรั่งเศสเรามีกริยาช่วย 2 ตัวคือ Etre และ Avoir อย่างที่ให้ฝึกกระจายไว้ด้านบน ทีนี้เราก็ต้องมาเลือกว่าใช้ตัวไหนดี
1. กริยาที่ใช้ avoir มาช่วย กริยาส่วนมากใช้ avoir มาช่วย โดยต้องกระจาย กริยา avoirให้ถูกต้องตรงกับประธานของประโยค ก่อนที่จะนำมาประกอบกับกริยาหลักในรูปParticipe passé เช่น กริยา Parler
วิธีการทำ Participe passé (เรียกสั้น ๆ ว่า PP. ออกเสียงว่า เป-เป ไม่ใช่ ปี-ปี เพราะ ปี-ปี แปลว่า ฉี่) มีกฎให้จำง่าย ๆ คือ
กริยากลุ่มที่ 1 ลงท้ายด้วย ER ตัด ER ทิ้งแล้วเติม é
เช่น Parler ตัด er ก็จะเหลือ Parl นำมาเติม é ก็จะได้ Parlé แล้วจึงนำมารวมกับกริยาAvoir ที่กระจายแล้วก็จะได้
J’ ai parlé
Tu as parlé
Il/elle a parlé
Nous avons parlé
Vous avez parlé
Ils/elles ont parlé
แค่นี้เราก็ได้อดีตของกริยา Parler แล้ว รวดเร็วทันใจดีแท้
ตัวอย่าง J’ai parlé de mon projet avec mon père. ฉันคุยเรื่องโครงการกับพ่อแล้ว
|
Passé composé
กริยากลุ่มที่ 2 ลงท้ายด้วย IR ตัด IR ทิ้ง เติม i
เช่น Finir ตัด ir ก็จะเหลือ fin นำมาเติม i ก็จะได้ fini แล้วจึงนำมารวมกับกริยา Avoirที่กระจายแล้วก็จะได้
J’ ai fini
Tu as fini
Il/elle a fini
Nous avons fini
Vous avez fini
Ils/elles ont fini
ตัวอย่าง J’ai fini mon devoir hier. ฉันทำการบ้านเสร็จเมื่อวานนี้
อยากรู้ว่ากริยากลุ่ม 2 นี้มีตัวไหนบ้าง ไปดูใน Présent อย่าเดา อย่ามั่วเอาเองนะคนดี
2. กริยาที่ต้องการ être มาช่วยใน Passé composé กริยากลุ่มนี้มีไม่มากนัก และต้องท่องให้แม่น นอกจากนี้ยังต้องระวังการเปลี่ยนเพศและพจน์ตามประธานที่เรียกว่าAccord(อัก-กอร์ ไม่ใช่ แอคคอร์ด) ด้วย กริยาที่ต้องใช้ être มาช่วย ได้แก่
Verbe
|
Participe passé
|
Verbe
|
Participe passé
|
allerไป
|
allé
|
venirมาจาก
revenirกลับมาจาก
devenirกลายเป็น
|
venu
revenu
devenu
|
arriverมาถึง
|
arrivé
|
partirไปจาก
|
parti
|
entrerเข้า
|
entré
|
sortirออกจาก
|
sorti
|
monterขึ้น
|
monté
|
descendreลง
|
descendu
|
naîtreเกิด
|
né
|
mourirตาย
décéderตาย
|
mort
décédé
|
tomberตก
|
tombé
|
passerผ่าน
|
passé
|
retournerย้อนกลับมา
|
retourné
|
resterอยู่พัก
demeurerอยู่พัก
|
resté
demeuré
|
Passé composé ที่ต้องใช้กับกริยา être จึงมีหน้าตาดังตัวอย่างนี้
Je suis
Tu es
Il/elle est
Nous sommes + participe passé (accord)
Vous êtes
Ils/elles sont
ตัวอย่าง
Je suis allé (alléeถ้า Je เป็นหญิง) en ville.
Tu es revenu (revenueถ้า Tu เป็นหญิง) à 2 heures.
Il est monté dans l’autobus/Elle est née le 24 juillet.
Nous sommes venusชายพหูพจน์หรือชายหญิงรวมกัน (venuesหญิงพหูพจน์) en retard.
Vous êtes partiชายเอกพจน์ (partieหญิงเอกพจน์, partisชายพหูพจน์, partiesหญิงพหูพจน์).
Ils sont restés/Elles sont restées.
ระวังประธาน Nous ที่จะต้องเป็นพหูพจน์เสมอ และประธาน Vous ที่สามารถเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ เพศชายและเพศหญิง แบบโฟร์อินวัน
ข้อยกเว้น กริยา sortir (เอาออกมา), monter (เอาขึ้น), descendre (เอาลง) ถ้ามีกรรมตรง (COD) ตามหลัง จะต้องใช้ avoir เป็นตัวช่วย ไม่ใช้กริยา Etre เช่นเดียวกับ passer(ใช้เวลา) เมื่อตามหลังด้วยเวลา อันนี้เป็นไวยากรณ์ขั้นสูงหน่อย ถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ ไม่เป็นไร ไปเรียนเรื่องกรรมให้เสร็จก่อนค่อยกลับมาอ่านใหม่ก็ได้ แต่ข้อยกเว้นชุดนี้ ออกข้อสอบบ่อย
ตัวอย่าง
Il a passé 2 ans(เวลา) en France.เขาอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลา 2 ปี
Sylvie a monté sa valise (COD) au 2e étage. ซิลฟีเอากระเป๋าขึ้นชั้นสอง
Nous avons sorti nos livres(COD) du cartable. เราเอาหนังสือออกจากกระเป๋า
Les mères ont descendu les enfants(COD) de l’arbre.แม่เอาเด็กลงมาจากต้นไม้
เมื่อใช้กับ avoir จึงไม่มีการ accord ที่ pp. ตามเพศและพจน์ของประธาน ยกเว้นเมื่อเปลี่ยนกรรมตรงเป็นสรรพนามแล้ววางไว้หน้า avoir+pp. (งงล่ะสิ เอาไว้เรียนเรื่องกรรมเพิ่มแล้วจะเข้าใจ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น