วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557

ทำความรู้จัก

ทำความรู้จัก (ต่อ)

ในบทสนทนาที่ผ่านมา เมื่อเราถามฝรั่งว่า เขาทำงานหรือเป็นนักเรียน Are you working here? Or you are a student? แล้วเขาตอบว่า I’m a student. เนื้อหาการคุยก็จะเปลี่ยนไป อาจจะลองถามเขาว่าเขาเรียนอะไรอยู่ด้วยคำถามง่าย ๆ เช่น What are you studying? แล้วเขาก็จะบอกสาขาวิชาที่เขาเรียน เช่น

MBA ปริญญาโทบริหารธุรกิจ
Journalism วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน
Food science วิทยาศาสตร์การอาหาร
Law กฎหมาย เป็นต้น

แต่สาขาวิชาบางสาขาก็มีชื่อย่อซับซ้อน เหลือจะเดา คนเรียนเท่านั้นที่รู้ว่ามันคืออะไรอย่างเช่น MA in BL หรือ MA in TRM ถ้าเราฟังแล้วไม่เข้าใจ ไม่รู้จัก ก็ไม่ต้องไปทำหน้าทำตารู้ดี ฝรั่งเป็นพวกจับความรู้สึกเก่ง พอเห็นเราทำท่ารู้ดีแบบไม่เนียน เขาก็จะถามDo you know it? คุณรู้จักด้วยเหรอ เอาละสิ คราวนี้จะ Yes หรือจะ No ก็เงอะงะไปหมด ถ้าไม่รู้ก็ถามไปเลยตั้งแต่แรกว่า MA in BL หรือ MA in TRM น่ะ มันคืออะไร แล้วคำถามก็ง่ายมาก What is it? แค่นี้เอง เช่น

-          Are you working here? Or you are a student?
-          I’m a student.
-          What are you studying? {วอททาร์ยูสตัดดิอิ่ง}
-          I’m studying MA in TRM. {อัมสตัดดิอิ้ง เอ็มเอ อิน ทีอาร์เอ็ม}
-          What is it? {วอทอีสสิด}
-          Master of Arts in Tourism Management. {แมสเตอร์ออฟอาร์ส อินเทอริสซึ่มแมเนจมึนท์}

อ๋อ ที่แท้ก็เรียนปริญญาโท สาขาบริหารจัดการการท่องเที่ยว ถ้าเป็น MA in BL ก็จะเป็นMaster of Arts in Business Law ปริญญาโทกฎหมายธุรกิจการค้านั่นเอง

อย่าไปอายที่จะถาม และอย่าไปอายที่จะบอกว่าเราไม่รู้จัก ดีกว่าไปเสแสร้งตาลอยทำเป็นรู้ ถ้าเจอฝรั่งใจร้ายอยากแกล้ง เขาก็จะถามไล่จนเราจนมุม อาย เสียความรู้สึก เสียความมั่นใจและเกิดอาการเกลียดฝรั่งเสียเปล่า ๆ

เมื่อถามข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาได้แล้ว ก็อย่าลืมบอกข้อมูลตัวเองบ้าง การสนทนาที่ดีจะต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ไม่ใช่เอาแต่ถาม ๆๆๆๆ เขาฝ่ายเดียว
ถ้าเรายังไม่ได้ทำงาน เป็นนักศึกษาอยู่ก็บอกเขาไปเลยว่า ฉันเรียนอะไรอยู่ เช่น

I’m studying Law. ฉันเรียนกฎหมาย
I’m studying BA. ฉันเรียนบริหารธุรกิจ
I’m studying IT. ฉันเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศ
แล้วจะบอกต่อว่าที่มหาวิทยาลัยไหน ก็ใช้ at บวกชื่อสถานศึกษาเข้าไปเลย เช่น

I’m studying Computer Science at Ramkamhaeng university. ฉันเรียนวิทย์-คอม ที่รามฯ เป็นต้น

าดูว่าบทสนทนาเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

-          Good morning. I’m Apichart. And you? {กึดมอร์นิง อัมอภิชาต แอนยู้}
-          Pardon? What’s your name? {พาร์ดั๊น วอทส์ยัวร์เนม}
-          My name is A-pi-chart. A-P-I-C-H-A-R-T, Apichart.
-          A-pi…What????
-          My English nickname is Tony. {มายอิงลิชนิคเนมอีส โทหนี่}
-          Ahhh! Tony! Hi. I’m Harry. Glad to know you. {อ้าาา โทหนี่ ไฮ อัมแฮหรี่ แกลดทุโนวยู}
-          Glad to know you, too. Are you working here? Or you are a student? {แกลดทุโนวยูทู อาร์ยูเวิร์กกิงเฮี๊ยร์ ออร์ยูอาร์ เอ สทิวดึนท์}
-          I’m a student. {อัม เอ สทิวดึนท์}
-          What are you studying? {วอททาร์ยูสตัดดิอิ่ง}
-          I’m studying MA in TRM. {อัมสตัดดิอิ้ง เอ็มเอ อิน ทีอาร์เอ็ม}
-          What is it? {วอทอีสสิท}
-          Master of Arts in Tourism Management. {แมสเตอร์ออฟอาร์ส อินเทอริสซึ่มแมเนจมึนท์}
-          Oh! Great! I’m studying Computer Science at Ramkamhaeng university. {โอ้ เกรท อัมสตัดดิอิงคัมพิวเตอร์ซายส์แอทรามคำแหงยูนิเวอร์ซิถี่} (ถี่ ไม่ใช่ตี้)
.........................................................
-          Well, I’ve got to go. Glad to meet you and hope to see you again. {เวล อัฟก็อตทุโก แกลดทุมีททิว แอนด์โฮปทุซียูอะเกน}
-          Thank you. See you later. {แธงกิ่ว ซียเลเถ่อร์} (ลงเสียงต่ำไว้ด้วย เถ่อไม่ใช่ เท่อ)

เริ่มต้นคุยได้แค่นี้ก็ถือว่าเก่งแล้วละ....จบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น